ทำไมโยเกิร์ตเป็นสิ่งที่ดีสำหรับคุณ
ทำไมโยเกิร์ตเป็นสิ่งที่ดีสำหรับคุณ :
กุญแจสำคัญคือสิ่งที่อยู่ในลำไส้บ่งบอกสุขภาพที่ดีของคุณได้ แบคทีเรียที่อยู่ในลำไส้ของคุณแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในระบบลำไส้ของคุณ
โดยเฉพาะส่วนท้ายของลำไส้เล็กที่เป็นช่วงต่อของลำไส้ใหญ่จะมีอยู่มากสุดหรือที่เรียกว่าชุมชนของแบคทีเรีย ในส่วนนี้จะมีแบคทีเรียเกาะอาศัยอยู่รวมกันที่ผนังภายในลำไส้เป็นจำนวนมาก ซึ่งแบคทีเรียมีชีวิตเหล่านี้จะมีมากกว่า 100 ชนิดและมีจำนวนหลายล้านตัว การที่จะมีอยู่รวมกันมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับชนิดและจำนวนที่เราบริโภคเข้าไปตามที่เรารับประทานอาหารนั้นๆลงไป
แบคทีเรียชนิด “ดี” และ “ไม่ดี”
เป็นที่ทราบกันดีว่าแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในลำไส้ของมนุษย์นั้นประกอบไปด้วยแบคทีเรียชนิดที่ “ไม่ดี” หรือแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโทษและแบคทีเรียชนิด “ดี” หรือแบคทีเรียที่มีประโยชน์ โดยปกติแบคทีเรียชนิด”ไม่ดี” รวมไปถึงแบคทีเรียที่ก่อโรคบางชนิดจะก่อให้เกิดการติดเชื้อเรื้อรังในผนังลำไส้เป็นแผลและลุกลามจนเป็นสาเหตุของมะเร็งลำไส้ได้ ส่วนแบคทีเรียชนิด “ดี” มีหลากหลายชนิด ส่วนใหญ่เป็นแบคทีเรียชนิดที่ผลิตกรดแล็กติก ได้แก่ แล็กโทบาซิลลัส ( lactobacillus ) และ บิฟิโดแบคทีเรียม ( Bifidobacterium ) โดยทั่วไปจะพบมากในบุคคลที่มีสุขภาพดีโดยเฉพาะวัยเด็กเล็กจะมีส่งเสริมกระบวนการต่างๆในร่างกายเราได้แก่กระบวนการเผาผลาญพลังงานเกิดสารเคมีและปฏิกิริยาสร้างกรดต่างๆ ดังนั้นแบคทีเรียที่เราได้รับเข้าสู่ร่างกายจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้หลายทางซึ่งส่งผลก่อให้เกิดประโยชน์และเกิดโทษต่อตัวเราได้
ประโยชน์บางอย่างของแบคทีเรียประเภท “ดี” ในร่างกาย เช่นการผลิตกรดไขมันสายสั้น วิตามินบางชนิด และกลายเป็นโมเลกุลเล็กๆที่มีส่วนสำคัญในการทำงานของระบบประสาท นอกจากนั้นแบคทีเรียชนิด “ดี” บางชนิดมีคุณสมบัติเป็นภูมิคุ้มกันของร่างกายที่สามารถขจัดและป้องกันการเจริญของแบคทีเรียที่ “ไม่ดี” บางชนิดที่มีอยู่ในร่างกายของเรา อย่างไรก็ตามในขณะเดียวกันมีงานศึกษาวิจัยที่เกี่ยวกับร่างกายและการเจริญเติบโตที่มีการเชื่อมโยงไปถึงแบคทีเรียชนิด “ไม่ดี” หรือชนิดก่อโรคซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการติดเชื้อ, เกิดการอักเสบในอวัยวะภายในมีการลุกลามไปยังอวัยวะส่วนต่างๆซึ่งก่อให้เกิดอาการเจ็บป่วยรุนแรงได้ ซึ่งจะเชื่อมโยงถึงสาเหตุของโรคต่างๆมากมายที่อาจจะเกิดขึ้น ได้แก่ โรคผิวหนัง ปอดอักเสบ รวมไปถึงกล้ามเนื้ออักเสบ เป็นต้น
ขณะที่แบคทีเรียชนิด “ไม่ดี” สามารถพบได้ทั้งภายนอกและภายในร่างกายของมนุษย์ ดังนั้นสิ่งสำคัญที่จะรักษาสุขภาพของเราให้ดีได้ต้องมีการรักษาสมดุลย์ภายในร่างกายไม่ให้ มีจำนวนแบคทีเรียชนิด “ไม่ดี”มากเกินไปและไม่เพิ่มกระจายไปถึงระบบภายในลำไส้ของเรา ถ้าแบคทีเรียชนิด “ไม่ดี” มีอยู่ในระบบลำไส้จำนวนมากๆโอกาสที่จะถูกดูดซึมจากผนังลำไส้เข้าสู่กระแสเลือดและอวัยวะภายในจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดโรคต่างๆดังกล่าวได้ สำหรับสิ่งที่จะช่วยให้ระบบทางเดินอาหารของเราให้ดีนั้นสิ่งสำคัญที่สุดต้องมีการป้องกันไม่ให้แบคทีเรียที่ “ไม่ดี” ที่อยู่ในระบบทางเดินอาหารของเรามีมากและเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว เราจะรักษาสมดุลย์การเพิ่มจำนวนของแบคทีเรียชนิด“ไม่ดี”ได้โดยการตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีแบคทีเรียชนิด “ดี” จำนวนมากกว่าอาศัยอยู่ในระบบลำไส้ของเรา มีงานศึกษาวิจัยที่เผยแพร่ที่ระบุถึงคุณสมบัติของเชื้อแบคทีเรียชนิด “ดี” เป็นภูมิต้านทานเชื้อโรค โดยแบคทีเรียชนิด “ดี” ส่วนใหญ่จะผลิตกรดอ่อนๆที่ช่วยส่งเสริมสภาวะแวดล้อมในระบบลำไส้ แต่แบคทีเรียชนิด “ไม่ดี” ส่วนใหญ่จะไม่มีชีวิตอยู่ได้ในสภาวะแวดล้อมที่เป็นกรดสูง ดังนั้นการที่มีแบคทีเรียที่มีชีวิตอยู่และเป็นชนิด “ดี” จำนวนมากและเพียงพอในระบบทางเดินอาหารจะช่วยยับยั้งการเจริญหรือเพิ่มจำนวนของแบคทีเรียชนิดที่ก่อให้เกิดโรคได้
เป็นที่ทราบกันดีว่าแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในลำไส้ของมนุษย์นั้นประกอบไปด้วยแบคทีเรียชนิดที่ “ไม่ดี” หรือแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโทษและแบคทีเรียชนิด “ดี” หรือแบคทีเรียที่มีประโยชน์ โดยปกติแบคทีเรียชนิด”ไม่ดี” รวมไปถึงแบคทีเรียที่ก่อโรคบางชนิดจะก่อให้เกิดการติดเชื้อเรื้อรังในผนังลำไส้เป็นแผลและลุกลามจนเป็นสาเหตุของมะเร็งลำไส้ได้ ส่วนแบคทีเรียชนิด “ดี” มีหลากหลายชนิด ส่วนใหญ่เป็นแบคทีเรียชนิดที่ผลิตกรดแล็กติก ได้แก่ แล็กโทบาซิลลัส ( lactobacillus ) และ บิฟิโดแบคทีเรียม ( Bifidobacterium ) โดยทั่วไปจะพบมากในบุคคลที่มีสุขภาพดีโดยเฉพาะวัยเด็กเล็กจะมีส่งเสริมกระบวนการต่างๆในร่างกายเราได้แก่กระบวนการเผาผลาญพลังงานเกิดสารเคมีและปฏิกิริยาสร้างกรดต่างๆ ดังนั้นแบคทีเรียที่เราได้รับเข้าสู่ร่างกายจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้หลายทางซึ่งส่งผลก่อให้เกิดประโยชน์และเกิดโทษต่อตัวเราได้
ประโยชน์บางอย่างของแบคทีเรียประเภท “ดี” ในร่างกาย เช่นการผลิตกรดไขมันสายสั้น วิตามินบางชนิด และกลายเป็นโมเลกุลเล็กๆที่มีส่วนสำคัญในการทำงานของระบบประสาท นอกจากนั้นแบคทีเรียชนิด “ดี” บางชนิดมีคุณสมบัติเป็นภูมิคุ้มกันของร่างกายที่สามารถขจัดและป้องกันการเจริญของแบคทีเรียที่ “ไม่ดี” บางชนิดที่มีอยู่ในร่างกายของเรา อย่างไรก็ตามในขณะเดียวกันมีงานศึกษาวิจัยที่เกี่ยวกับร่างกายและการเจริญเติบโตที่มีการเชื่อมโยงไปถึงแบคทีเรียชนิด “ไม่ดี” หรือชนิดก่อโรคซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการติดเชื้อ, เกิดการอักเสบในอวัยวะภายในมีการลุกลามไปยังอวัยวะส่วนต่างๆซึ่งก่อให้เกิดอาการเจ็บป่วยรุนแรงได้ ซึ่งจะเชื่อมโยงถึงสาเหตุของโรคต่างๆมากมายที่อาจจะเกิดขึ้น ได้แก่ โรคผิวหนัง ปอดอักเสบ รวมไปถึงกล้ามเนื้ออักเสบ เป็นต้น
ขณะที่แบคทีเรียชนิด “ไม่ดี” สามารถพบได้ทั้งภายนอกและภายในร่างกายของมนุษย์ ดังนั้นสิ่งสำคัญที่จะรักษาสุขภาพของเราให้ดีได้ต้องมีการรักษาสมดุลย์ภายในร่างกายไม่ให้ มีจำนวนแบคทีเรียชนิด “ไม่ดี”มากเกินไปและไม่เพิ่มกระจายไปถึงระบบภายในลำไส้ของเรา ถ้าแบคทีเรียชนิด “ไม่ดี” มีอยู่ในระบบลำไส้จำนวนมากๆโอกาสที่จะถูกดูดซึมจากผนังลำไส้เข้าสู่กระแสเลือดและอวัยวะภายในจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดโรคต่างๆดังกล่าวได้ สำหรับสิ่งที่จะช่วยให้ระบบทางเดินอาหารของเราให้ดีนั้นสิ่งสำคัญที่สุดต้องมีการป้องกันไม่ให้แบคทีเรียที่ “ไม่ดี” ที่อยู่ในระบบทางเดินอาหารของเรามีมากและเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว เราจะรักษาสมดุลย์การเพิ่มจำนวนของแบคทีเรียชนิด“ไม่ดี”ได้โดยการตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีแบคทีเรียชนิด “ดี” จำนวนมากกว่าอาศัยอยู่ในระบบลำไส้ของเรา มีงานศึกษาวิจัยที่เผยแพร่ที่ระบุถึงคุณสมบัติของเชื้อแบคทีเรียชนิด “ดี” เป็นภูมิต้านทานเชื้อโรค โดยแบคทีเรียชนิด “ดี” ส่วนใหญ่จะผลิตกรดอ่อนๆที่ช่วยส่งเสริมสภาวะแวดล้อมในระบบลำไส้ แต่แบคทีเรียชนิด “ไม่ดี” ส่วนใหญ่จะไม่มีชีวิตอยู่ได้ในสภาวะแวดล้อมที่เป็นกรดสูง ดังนั้นการที่มีแบคทีเรียที่มีชีวิตอยู่และเป็นชนิด “ดี” จำนวนมากและเพียงพอในระบบทางเดินอาหารจะช่วยยับยั้งการเจริญหรือเพิ่มจำนวนของแบคทีเรียชนิดที่ก่อให้เกิดโรคได้
โยเกิร์ต เมนูสุขภาพเพื่อลดน้ำหนัก
สิ่งสำคัญสำหรับอาหารสำหรับควบคุมน้ำหนักเพื่อสุขภาพของคุณต้องรวมไปถึงอาหารนั้น มีคุณสมบัติที่จะสนับสนุนแบคทีเรียชนิด “ดี” มีปริมาณมากและเพียงพอ ส่งเสริมสภาวะแวดล้อม ในระบบทางเดินอาหารให้เป็นกรด ปรับสมดุลย์โดยการยับยั้งปริมาณแบคทีเรียชนิด “ไม่ดี” อาหารเพื่อสุขภาพของคุณต้องมีสารอาหารตามหลัก 5 หมู่ครบถ้วนและที่สำคัญต้องมีปริมาณ ใยอาหารที่เพียงพอ น่าเสียดายที่อาหารเพื่อลดน้ำหนักส่วนใหญ่แล้วสิ่งที่มีประโยชน์และสารอาหารไม่มีความสมดุลย์และเพียงพอต่อสุขภาพที่ดี เมนูที่ลดน้ำหนักต่างๆจำนวนมากในสังคมเมืองสมัยใหม่ที่ใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วยไขมันที่มีปริมาณสูง โปรตีนที่มาจากเนื้อสัตว์ น้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตจากแป้งต่างๆ ซึ่งอาหารเหล่านี้มีปริมาณใยอาหารต่ำและสนับสนุนให้สภาวะในระบบทางเดินอาหารมีสภาพที่เป็นด่างซึ่งเอื้อประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของแบคทีเรียชนิด “ไม่ดี” มีชีวิตอาศัยอยู่จำนวนมากในระบบทางเดินอาหารของคุณได้
สิ่งสำคัญสำหรับอาหารสำหรับควบคุมน้ำหนักเพื่อสุขภาพของคุณต้องรวมไปถึงอาหารนั้น มีคุณสมบัติที่จะสนับสนุนแบคทีเรียชนิด “ดี” มีปริมาณมากและเพียงพอ ส่งเสริมสภาวะแวดล้อม ในระบบทางเดินอาหารให้เป็นกรด ปรับสมดุลย์โดยการยับยั้งปริมาณแบคทีเรียชนิด “ไม่ดี” อาหารเพื่อสุขภาพของคุณต้องมีสารอาหารตามหลัก 5 หมู่ครบถ้วนและที่สำคัญต้องมีปริมาณ ใยอาหารที่เพียงพอ น่าเสียดายที่อาหารเพื่อลดน้ำหนักส่วนใหญ่แล้วสิ่งที่มีประโยชน์และสารอาหารไม่มีความสมดุลย์และเพียงพอต่อสุขภาพที่ดี เมนูที่ลดน้ำหนักต่างๆจำนวนมากในสังคมเมืองสมัยใหม่ที่ใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วยไขมันที่มีปริมาณสูง โปรตีนที่มาจากเนื้อสัตว์ น้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตจากแป้งต่างๆ ซึ่งอาหารเหล่านี้มีปริมาณใยอาหารต่ำและสนับสนุนให้สภาวะในระบบทางเดินอาหารมีสภาพที่เป็นด่างซึ่งเอื้อประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของแบคทีเรียชนิด “ไม่ดี” มีชีวิตอาศัยอยู่จำนวนมากในระบบทางเดินอาหารของคุณได้
อีกวิธีที่จะช่วยปรับสมดุลย์ทดแทนสิ่งที่ขาดหายไปของอาหารเพื่อสุขภาพของคุณคือเลือกอาหารที่ดีมีประโยชน์ได้แก่ “โยเกิร์ต” ช่วยสำหรับอาหารสุขภาพของคุณได้เป็นอย่างดี โดยปกติแล้วโยเกิร์ตจะประกอบไปด้วยแบคทีเรียที่สามารถผลิตกรดอ่อนเพื่อช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของแบคทีเรียชนิด “ดี” เพื่อยับยั้งหรือกำจัดแบคทีเรียชนิด “ไม่ดี” ออกจากระบบทางเดินอาหารของคุณนั่นเอง ในขณะเดียวกันเราต้องเข้าใจว่าโยเกิร์ตทุกชนิดไม่มีคุณสมบัติและ ระสิทธิผลที่จะช่วยป้องกันแบคทีเรียที่ก่อโทษในระบบลำไส้ของคุณได้เหมือนกันทั้งหมด แต่ขึ้นอยู่กับในส่วน ประกอบของโยเกิร์ตชนิดนั้นมี “แบคทีเรียที่มีชีวิต” ชนิดที่ผลิตกรดอยู่ในโยเกิร์ตเป็นจำนวนมากและเพียงพอหรือไม่ สำหรับชนิดโยเกิร์ตที่มีคุณสมบัติและมีผลต่อสุขภาพที่ดีดังกล่าว สิ่งสำคัญ คือต้องมีแบคทีเรียชนิดที่ผลิตกรดแล็กติค ทั้งมีชีวิตอยู่ ( LIVE)และมีปฏิกิริยาที่มีประสิทธิผลต่อสุขภาพ ( ACTIVE ) รวมทั้งมีปริมาณที่มากเพียงพอต่ ประสิทธิผลดังกล่าวอีกด้วย
โยเกิร์ต ช่วยดูแลปัญหาสุขภาพช่องปาก
และอย่างที่ทราบกันดีว่า โยเกิร์ตเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ เหมาะกับผู้ที่รักสุขภาพเป็นอย่างมาก นอกเหนือจากการช่วยฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ที่ไม่ดีทั้งหลายแล้ว การกินโยเกิร์ต ยังช่วยให้อาการท้องเสียทุเลาลง ช่วยให้ถ่ายน้อยลงหรือหยุดถ่าย อีกทั้งยังช่วยป้องกันโรคหัวใจได้อีกด้วย โดยโยเกิร์ตไขมันต่ำ 1 ถ้วย จะเป็นแหล่งรวมของสารอาหารมากถึง 11 ชนิด แคลเซียมสูงที่ได้จากโยเกิร์ต ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน ความดันโลหิต มะเร็งลำไส้ และยังกระตุ้นการเผาผลาญของร่างกาย และคุณสมบัติที่น่าสนใจอีกอย่างนั่นคือ การช่วยลดกลิ่นปากและโรคเหงือก โดยจะพบว่า คนทั่วไป 1 ใน 4 จะพบปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่หลายคนอาจจะไม่ทราบว่ามีวิธีทางเลือกที่ช่วยให้เราสู้กับปัยหากลิ่นปากได้
นายเคนอิชิ โฮโจ และทีมนักวิจัยจากญี่ปุ่น ได้ทำการวิจัยพบว่า โยเกิร์ตรสธรรมชาติ ไม่เติมน้ำตาล ช่วยลดกลิ่นปาก ลดอาการฟันผุ และป้องกันโรคเกี่ยวกับเหงือกด้วย โดย 80% จากการทดสอบกับอาสาสมัครทั้งหมดชี้บ่งว่า การกินโยเกิร์ตเป็นประจำทุกวัน วันละ 6 ออนซ์ (ประมาณ 1 ถ้วย) แบคทีเรียชนิด ดี ที่อยู่ในโยเกิร์ต ได้แก่ แลคโตบาซิลลัส บัลแกริคัส และ สเตรปโตคอคคัส เทอร์โมฟิลลัส ที่มีอยู่ในโยเกิร์ต จะช่วยลดปริมาณสารไฮโดรเจนซัลไฟด์ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของปัญหากลิ่นปากได้นั่นเอง นอกจากนี้ ผู้ที่ชอบกินโยเกิร์ตเป็นประจำ มักจะมีคราบแบคทีเรียบนผิวฟัน (Plaque) และอาการของโรคเหงือกอักเสบ น้อยกว่าคนทั่วไปอีกด้วย
ขอบคุณที่มาจาก publicpostonline.com
โยเกิร์ต ช่วยดูแลปัญหาสุขภาพช่องปาก
และอย่างที่ทราบกันดีว่า โยเกิร์ตเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ เหมาะกับผู้ที่รักสุขภาพเป็นอย่างมาก นอกเหนือจากการช่วยฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ที่ไม่ดีทั้งหลายแล้ว การกินโยเกิร์ต ยังช่วยให้อาการท้องเสียทุเลาลง ช่วยให้ถ่ายน้อยลงหรือหยุดถ่าย อีกทั้งยังช่วยป้องกันโรคหัวใจได้อีกด้วย โดยโยเกิร์ตไขมันต่ำ 1 ถ้วย จะเป็นแหล่งรวมของสารอาหารมากถึง 11 ชนิด แคลเซียมสูงที่ได้จากโยเกิร์ต ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน ความดันโลหิต มะเร็งลำไส้ และยังกระตุ้นการเผาผลาญของร่างกาย และคุณสมบัติที่น่าสนใจอีกอย่างนั่นคือ การช่วยลดกลิ่นปากและโรคเหงือก โดยจะพบว่า คนทั่วไป 1 ใน 4 จะพบปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่หลายคนอาจจะไม่ทราบว่ามีวิธีทางเลือกที่ช่วยให้เราสู้กับปัยหากลิ่นปากได้
นายเคนอิชิ โฮโจ และทีมนักวิจัยจากญี่ปุ่น ได้ทำการวิจัยพบว่า โยเกิร์ตรสธรรมชาติ ไม่เติมน้ำตาล ช่วยลดกลิ่นปาก ลดอาการฟันผุ และป้องกันโรคเกี่ยวกับเหงือกด้วย โดย 80% จากการทดสอบกับอาสาสมัครทั้งหมดชี้บ่งว่า การกินโยเกิร์ตเป็นประจำทุกวัน วันละ 6 ออนซ์ (ประมาณ 1 ถ้วย) แบคทีเรียชนิด ดี ที่อยู่ในโยเกิร์ต ได้แก่ แลคโตบาซิลลัส บัลแกริคัส และ สเตรปโตคอคคัส เทอร์โมฟิลลัส ที่มีอยู่ในโยเกิร์ต จะช่วยลดปริมาณสารไฮโดรเจนซัลไฟด์ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของปัญหากลิ่นปากได้นั่นเอง นอกจากนี้ ผู้ที่ชอบกินโยเกิร์ตเป็นประจำ มักจะมีคราบแบคทีเรียบนผิวฟัน (Plaque) และอาการของโรคเหงือกอักเสบ น้อยกว่าคนทั่วไปอีกด้วย
ขอบคุณที่มาจาก publicpostonline.com
โยเกิร์ต “โยลิดา” ( Yolida Yogurt )
Yolida yogurt คือโยเกิร์ตสุขภาพทางเลือกที่ดีที่สุดของคุณโยเกิร์ตหลายชนิดที่มีจำหน่ายตามท้องตลาดส่วนใหญ่มีขั้นตอนการผลิตที่ใช้วิธีการกวนให้เหลว ( Stirred ) ซึ่งกระบวนการผลิตวิธีนี้ในขั้นตอนการเติมเชื้อแบคทีเรียที่ใช้ในการหมักโดยทั่วไปจะเติมในถังหมักระหว่างกระบวนการผลิต หลังจากหมักได้ที่แล้วเนื้อโยเกิร์ตจะแข็งหรือเซ็ตตัวในถังหมัก หลังจากนั้นจะทำการกวนเพื่อให้เนื้อโยเกิร์ตเหลวเพื่อง่ายต่อการบรรจุ อย่างไรก็ตามในขั้นตอนนี้ต้องมีการควบคุมการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ชนิดอื่นที่ไม่ต้องการ โดยปกติในขั้นตอนนี้จะทำการเพิ่มอุณหภูมิโยเกิร์ตให้มีความร้อนสูงอีกครั้งก่อนบรรจุลงในถ้วยหรือบรรจุภัณฑ์ ขั้นตอนการกวนให้เนื้อโยเกิร์ตเหลวและการเพิ่มความร้อนก่อนบรรจุนี้อาจจะทำให้แบคทีเรียชนิดดีที่เติมลงไปเพื่อการหมักนั้นถูกทำลายให้ตายได้ส่งผลให้แบคทีเรียชนิด “ดี” มีประโยชน์มีชีวิตหลงเหลือในถ้วยบรรจุน้อยมาก อีกทั้งโยเกิร์ตประเภทนี้ส่วนใหญ่จะมีการเติมน้ำตาลลงไปในปริมาณที่สูงเพื่อเพิ่มรสชาติ (บางชนิดมีปริมาณน้ำตาลสูงมากกว่า8% ) และมีการเติมแต่งกลิ่นรสเพื่อน่ารับประทานอีกด้วย ซึ่งโยเกิร์ตเหล่านี้จะไม่ใช่โยเกิร์ต “ ดี” มีประโยชน์ต่อระบบลำไส้และสุขภาพของคุณ
Yolida yogurt มีความแตกต่างที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ คือ เป็นโยเกิร์ตที่ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติทั้งหมด กระบวนการผลิตโดยใช้วิธีพิเศษเฉพาะเพื่อรักษาคุณสมบัติของแบคทีเรียชนิด “ดี” ทั้งมีชีวิตอยู่(LIVE) และปฏิกิริยาที่มีประสิทธิผลต่อสุขภาพ ( ACTIVE ) โดยการเติมแบคทีเรียที่ใช้ในการหมักมีคุณสมบัติผลิตกรดแล็กติกเติมลงในน้ำนมโคจากธรรมชาติที่ผ่านการฆ่าเชื้อด้วยวิธีการพาสเจอร์ไรส์ หลังจากนั้นบรรจุลงในถ้วยด้วยสภาวะแวดล้อมที่สะอาด นำไปบ่มในสภาวะอุณหภูมิที่เหมาะสม กระบวนการหมักจะเกิดในขั้นตอนนี้ส่งผลให้เนื้อโยเกิร์ตเนื้อแน่นเซ็ตตัวโดยตรงภายในถ้วย หรือเรียกว่าเซ็ตโยเกิร์ต ( Set Yogurt ) ไม่มีการเพิ่มความร้อนหรือการกวนให้เนื้อโยเกิร์ตเหลวหลังการหมักของเชื้อแบคทีเรีย กระบวนการนี้จะเป็นการรักษาทั้งคุณภาพและคุณสมบัติของแบคทีเรียชนิด “ดี” ทั้งมีชีวิตอยู่ (LIVE) และปฏิกิริยาที่มีประสิทธิผลต่อสุขภาพ ( ACTIVE )
Yolida yogurt ยังมีผลการทดสอบจากห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองยืนยันปริมาณแบคทีเรียที่มีชีวิตอยู่ชนิด “ดี” หรือชนิดที่ผลิตกรดแล็กติกที่มีอยู่ในโยเกิร์ต มีปริมาณมากและเพียงพอต่อสุขภาพของผู้บริโภค Yolida yogurt เมื่อรับประทานแบคทีเรียที่มีชีวิตชนิด “ดี” ที่มีอยู่ใน YOLIDA จะส่งผลที่ดีต่อสุขภาพของระบบทางเดินอาหารและเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคหรือลูกค้าของเราโดยตรง
นอกจากนี้ โยลิดาโยเกิร์ต ผลิตจากน้ำนมโคธรรมชาติ 100% หมักรวมกับจุลินทรีย์ ชนิดดี ไม่เติมสารปรุงแต่งหรือสารเจือปนใดๆตามที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ดังนั้นจึงจัดอยู่ในกลุ่มของอาหาร Gluten-Free ตามธรรมชาติ ดังนั้นผู้ที่มีภาวะแพ้กลูเตนจึงสามารถรับประทานได้นั่นเอง
